T Mark มีส่วนช่วยขับเคลื่อนธุรกิจส่งออกได้อย่างไร
Thailand Trust Mark (T Mark) ตราสัญลักษณ์รับรองคุณภาพสินค้าและบริการของไทย
อีกหนึ่งอาวุธลับที่สำคัญสำหรับ
ผู้ประกอบธุรกิจส่งออก ปัจจุบันมีบริษัทผลิตสินค้าและบริการของไทยที่ได้รับตราสัญลักษณ์
T
Mark แล้วกว่า 800 บริษัท ใน 8
กลุ่มอุตสาหกรรม 1.อุตสาหกรรมอาหารและเกษตร 2.อุตสาหกรรมหนัก 3.อุตสาหกรรมไลฟ์สไตล์
4.อุตสาหกรรมแฟชั่น
5.อุตสาหกรรมทั่วไป 6.ธุรกิจรักษาพยาบาล 7.ธุรกิจส่งเสริมสุขภาพ และ
8.ธุรกิจบริการการศึกษานานาชาติ ซึ่งตราสัญลักษณ์นี้จะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือและลดข้อกังขาให้กับผู้ประกอบการไทยในหลายด้าน
เช่น คุณภาพสินค้าและบริการที่ได้รับการรับรองตามมาตรฐานสากล (International
Standard) คุณภาพเรื่องมาตรฐานแรงงานไทย (Fair
Labour) คุณภาพเรื่องความรับผิดชอบต่อสังคม (Social
Responsibility) และคุณภาพในการผลิตที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม
(Environmental
Concern)
สำหรับผู้ประกอบการไทยที่ต้องการขยายฐานธุรกิจ
ให้ไปเติบโตอย่างแข็งแรงในตลาดสากล ตราสัญลักษณ์ T Mark เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยสำคัญที่จะช่วยติดปีกพาผู้ประกอบการไทยให้ยืนในตลาดสากลได้อย่างภาคภูมิ
เพราะ T Mark ไม่เพียงแต่เป็นตราสัญลักษณ์ที่การันตีคุณภาพเท่านั้น
ผู้ประกอบการที่ได้รับตราสัญลักษณ์ T Mark มีโอกาสเข้าร่วมการอบรมหรือโครงการดี
ๆ ทีจะช่วยให้คำปรึกษา พัฒนาและผลักดันผู้ประกอบการ ที่มีเป้าหมายเพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางการค้าให้กับ
SME
และ Startup ทุกระดับ ด้วยเนื้อหาหลักสูตรครอบคลุมการดำเนินธุรกิจในโลกยุคดิจิทัล
และกิจกรรมย่อยที่พัฒนาความสามารถ แนวคิด
ผ่านกิจกรรมที่หลากหลายจากผู้เชี่ยวชาญสาขาต่าง ๆ
โครงการ T Mark สนับสนุนผู้ประกอบการด้วยการเพิ่มโอกาสขยายตลาดสินค้าไปยังประเทศต่าง ๆ
อาทิ โครงการ
‘T Mark อาหารไทยเจาะตลาดซูเปอร์มาร์เก็ตระดับ Mainstream
ในสหรัฐอเมริกา’
เป็นโครงการที่เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยมีโอกาสส่งผลิตภัณฑ์ไปเปิดตลาดที่สหรัฐอเมริกา
โดยคัดเลือกผู้ประกอบการในโครงการ T Mark ที่สนใจเพื่อเข้าสู่กระบวนการอบรม
ปรับปรุงและพัฒนาจนกว่าจะได้ผลิตภัณฑ์ในแบบที่ดีที่สุด ระหว่างขั้นตอนการคัดเลือกจะมีผู้เชี่ยวชาญให้คำแนะนำตลอดทั้งโครงการ
โดยโครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อผลักดันสินค้าแบรนด์ไทยในโครงการ T Mark เข้าสู่ตลาดอาหารสหรัฐฯ ในระดับ Mainstream (รวมทั้งตลาด
Online และ Food Service ในสหรัฐฯ ) ผ่านช่องทางการกระจายสินค้าแบบใหม่
และเปิดช่องทางให้สามารถตั้งกิจการผู้จัดจำหน่ายสำหรับบริษัทและ/หรือกลุ่มธุรกิจร่วมกันเองได้ในอนาคตผ่านช่องทางที่สร้างไว้แล้ว
นอกจากนี้ยังหวังสร้างการรับรู้สินค้าแบรนด์ไทยที่ได้รับตราสัญลักษณ์ T
Mark ผู้บริโภคได้มีโอกาสทดลองชิมและช่วยสร้างให้เกิดความหลากหลายของสินค้าไทยในตลาด
โครงการในครั้งนี้ยังช่วยสร้างโอกาสในการขยายตลาดสินค้าแบรนด์ไทยจากตลาดไทยไปสู่กลุ่มสินค้าอื่น
ๆ ที่มีศักยภาพเพิ่มขึ้นในอนาคต
นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมที่พาผู้ประกอบการที่ได้รับตราสัญลักษณ์
T Mark ไปร่วมกิจกรรมที่สาธารณรัฐประชาชนจีน
(กวางโจว)
มีวัตถุประสงค์ผลักดันผู้ประกอบการที่ได้รับตราสัญลักษณ์ T Mark ให้สามารถขยายตลาดและดำเนินธุรกิจในต่างประเทศได้อย่างครบวงจร
นอกจากนี้ยังเพื่อประชาสัมพันธ์ข้อมูลตราสัญลักษณ์ T Mark
ให้เป็นที่รู้จักในตลาดต่างประเทศ รวมถึงเผยแพร่สิทธิประโยชน์ต่าง ๆ
ให้เป็นที่รู้จักในกลุ่มผู้ประกอบการส่งออกของไทยโดยเฉพาะผู้สนใจตลาดจีน โดยกิจกรรมจะแบ่งเป็น
3 ส่วน ได้แก่ 1. กิจกรรม Business
Matching การจัดทำนัดหมายโดยเชิญผู้นำเข้าจากวางโจวและเมืองใกล้เคียงมาเจรจาการค้าในลักษณะ
Business Matching 2. กิจกรรมเข้าร่วมจัดแสดงสินค้าภายในงานแสดงสินค้า Guangdong 21th
Century Maritime Silk Road International Expo เพื่อทดสอบตลาดกับกลุ่มผู้บริโภคในจีนและเจรจาการค้ากับนักธุรกิจจีน
และ 3. การประชาสัมพันธ์ตราสัญลักษณ์ T Mark และข้อมูลสำหรับผู้ประกอบการไทยในการดำเนินธุรกิจในจีน ประกอบด้วย
การประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างประเทศและ KOLs ในจีน
รวมถึงการจัดทำข้อมูลผู้ที่ได้รับตราสัญลักษณ์ T Mark ที่ประสบความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจในจีน
เพื่อเป็นกรณีศึกษาให้ผู้ประกอบการที่สนใจเจาะตลาดจีนได้ทราบข้อมูลและขั้นตอนการส่งออกสินค้ามายังตลาดจีนอย่างถูกต้อง
และเผยแพร่ข้อมูลสินค้าของผู้เข้าร่วมโครงการผ่านสื่อประชาสัมพันธ์ช่องทางต่าง ๆ
อาทิ สื่อโทรทัศน์ สื่อหนังสือพิมพ์ สื่อออนไลน์และสื่อสังคมออนไลน์ เป็นต้น
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศหวังเป็นอย่างยิ่งว่ากิจกรรมต่าง
ๆ จะช่วยกระตุ้นและผลักดันให้ผู้ประกอบการไทยสามารถขยายฐานธุรกิจไปยังตลาดต่างประเทศได้อย่างมั่นใจ
โดยตราสัญลักษณ์ T Mark จะช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีรวมถึงยังสร้างเอกลักษณ์ที่ดีให้กับสินค้าและบริการของไทย
เมื่อผู้บริโภคทั่วโลกเห็นตราสัญลักษณ์นี้ก็สามารถรับรู้ได้ว่าเป็นสินค้าที่มีคุณภาพเป็นเลิศ
ผ่านกระบวนการผลิตที่ดี ใส่ใจสิ่งแวดล้อม มีความรับผิดชอบต่อสังคม
และใช้แรงงานที่เป็นธรรม
ซึ่งผู้บริโภคในหลายประเทศนั้นต่างตระหนักและให้ความสำคัญกับปัจจัยเหล่านี้
และต้องการสนับสนุนสินค้าและบริการเหล่านี้เป็นพิเศษ ดังนั้นการติดตราสัญลักษณ์ T
Mark ก็เสมือนเป็นเครื่องมือทางการตลาดที่ช่วยให้ผู้ประกอบการไทยแข่งขันในตลาดโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
จะเห็นได้ว่าตราสัญลักษณ์ T Mark เป็นอาวุธที่สำคัญที่จะช่วยผลักดัน พัฒนา
ยกระดับผู้ประการไทย ให้ผลิตสินค้าที่มีศักยภาพทัดเทียม และขยายตลาดสู่สากลได้อย่างครบถ้วนทุกมิติ
หากผู้ประกอบการท่านใดสนใจที่จะร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการติดตราสัญลักษณ์ T Mark สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://thailandtrustmark.com/