รูเบียอุตสาหกรรม ผู้อยู่เคียงคู่สินค้าอุปโภคบริโภคไทย
เมื่อเอ่ยถึงสบู่พฤกษานกแก้วหรือสบู่นกแก้ว
คุณจะนึกถึงอะไร แน่นอนว่ากลิ่นความหอมคลาสสิคของพฤกษาไทยต้องมาเป็นอันดับหนึ่ง
อันดับถัดมาอาจเป็นสีสันบรรจุภัณฑ์ที่สะดุดตา หรือไม่ก็รูปนกแก้วที่ยกปีกเคียงโลโก้
สิ่งที่กล่าวมาทั้งหมดล้วนเป็นส่วนประกอบอันเป็นเอกลักษณ์ของสบู่นกแก้ว แต่หลายคนอาจไม่ทราบว่านอกเหนือจากรูปนกแก้วสีเขียวเหลืองที่เคียงคู่ชื่อ
Parrot Botanicals นั้น บริษัท รูเบียอุตสาหกรรม
จำกัด เป็นผู้อยู่เคียงข้างสบู่นกแก้วมาอย่างยาวนานเช่นเดียวกัน
ทั้งยังเป็นผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคอีกหลากหลายชนิดอีกด้วย
69 ปีแห่งความสำเร็จ
บริษัท รูเบียอุตสาหกรรม จำกัด
เป็นบริษัทในเครือของบริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BJC ซึ่งได้จดทะเบียนก่อตั้งในปีพุทธศักราช
2494 ตลอดระยะเวลากว่า 69 ปีที่รูเบียอุตสาหกรรมมีความชำนาญและมีประสบการณ์ในฐานะบริษัทรับจ้างผลิตสินค้าที่น่าเชื่อถือ
ทำให้ได้รับความไว้วางใจให้ผลิตสินค้าจากลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ
ปัจจุบัน รูเบียอุตสาหกรรมมีโรงงานผลิตสินค้า 3
โรงงานด้วยกัน ประกอบด้วย โรงงานผลิตสบู่
เป็นโรงงานรับจ้างผลิตสบู่ขนาดใหญ่ในอาเซียนและใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โรงงานผลิตเครื่องสำอาง
ด้วยกระบวนการผลิตที่ทันสมัยตามมาตรฐานสากล สามารถผลิตเครื่องสำอางได้หลายประเภท
เช่น สบู่เหลว ครีม โลชัน แป้ง ฯลฯ และโรงงานสุดท้าย โรงงานผลิตลูกอม
ทั้งแบบชนิดแข็ง และแบบชนิดนิ่ม รวมถึงผลิตช็อกโกแลต
นอกเหนือจากสินค้าของรูเบียอุตสาหกรรมที่รู้จักกันดีภายใต้แบรนด์สบู่และครีมอาบน้ำนกแก้วและแบรนด์แพรอท สบู่สมุนไพรแพรอทเฮอร์เบิล และผลิตภัณฑ์ครีมอาบน้ำ รวมถึงโลชันสำหรับเด็กภายใต้แบรนด์ดีเอ็มพีแล้ว รูเบียอุตสาหกรรมยังรับผลิตสินค้าให้กับลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็น ลูกอมซูกัส ลูกอมคอริฟิน-ซี ผลิตภัณฑ์เจลอาบน้ำ โลชัน แป้งภายใต้แบรนด์ Bare Babi ยาสีฟัน Sparkle สบู่ PIPIN Herbal เป็นต้น
“มุ่งมั่นที่จะเป็นผู้ให้บริการ
ทำธุรกิจอย่างครบวงจรในภูมิภาคเพื่อนำสินค้าและบริการที่มีคุณภาพสู่ชีวิตประจำวันของผู้บริโภค”
สมวิสัยทัศน์ในการดำเนินธุรกิจ
สบู่นกแก้ว
เป็นสินค้าที่สามารถเห็นบนชั้นวางสินค้าเกือบทุกร้านค้า และสามารถดึงดูดผู้บริโภคด้วยเอกลักษณ์ที่ไม่มีใครเหมือน
ถือเป็นความโดดเด่นอย่างหนึ่งที่ทำให้สินค้าของรูเบียอุตสาหกรรมกระจายอยู่ทั่วทุกภูมิภาค
รูเบียอุตสาหกรรมกล่าวถึงสินค้าภายใต้แบรนด์ของบริษัทว่า
ได้มีทำการตลาดและจัดจำหน่ายสินค้าผ่าน 6 ช่องทางหลัก ได้แก่ ร้านค้าปลีกสมัยใหม่
(Modern Trade) ได้แก่
ไฮเปอร์มาร์เก็ต ซูเปอร์มาร์เก็ต และร้านค้าแบบแคชแอนด์แครี่ ร้านสะดวกซื้อ/ร้านค้าในสถานีบริการน้ำมัน
(Convenience Store/Gas Station) ร้านค้าปลีกแบบดั้งเดิม
(Traditional Trade) กลุ่มลูกค้าสถาบัน
(Institutional Channel) คือ
ลูกค้าที่ซื้อสินค้าของบริษัทเพื่อนำไปใช้หรือให้บริการแก่ผู้บริโภคโดยไม่ได้มีการขายต่อ
ด้วย ซึ่งในปัจจุบัน สินค้าของรูเบียอุตสาหกรรมมีการจำหน่ายสินค้าไปยังร้านค้าในต่างประเทศ
ทั้งประเทศลาว กัมพูชา เมียนมา จีน ไต้หวัน อินโดนีเซีย มาเลเซีย และฟิลิปปินส์
นอกจากนี้ ยังมีช่องทางในตลาดออนไลน์สำหรับสินค้าที่บริษัทฯ รับจ้างผลิต ซึ่งลูกค้าเป็นผู้ทำการตลาดและจัดจำหน่ายเองอีกด้วย
ชำนาญ-เชี่ยวชาญ-ได้มาตรฐาน
สู่ความไว้วางใจ
เป็นเวลาหลายทศวรรษที่รูเบียอุตสาหกรรมได้สั่งสมประสบการณ์และความชำนาญ
ทั้งยังได้รับความไว้วางใจให้เป็นผู้ผลิตสินค้าให้กับแบรนด์ต่าง ๆ อย่างหลากหลาย
หนึ่งในความไว้วางใจนั่นคือ
การที่รูเบียอุตสาหกรรมมีทีมงานที่เชี่ยวชาญในการพัฒนาสินค้าและบรรจุภัณฑ์ที่หลากหลาย
ทันสมัย และตรงตามความต้องการของลูกค้า ซึ่งจะเน้นทำการผลิตสินค้าโดยยึดหลักคุณภาพและการบริการที่ตรงกับความต้องการของลูกค้า
ทั้งยังให้ความสำคัญในด้านความสะอาด สุขอนามัย ตลอดจนเคร่งครัดตามมาตรฐานสากลทั้งในด้านการผลิต
(ISO9001,
ISO22716, ISO/IEC17025,
FSSC22000, GMP, HACCP, HALAL) ด้านแรงงานและการดำเนินธุรกิจตามหลักจรรยาบรรณทางธุรกิจ
(SMETA, URSA) รวมถึง
ด้านสิ่งแวดล้อม (ISO14001)
อีกด้วย
อีกหนึ่งฐานแห่งความสำเร็จของรูเบียอุตสาหกรรมก็คือ
การให้ความสำคัญกับกระบวนการผลิตที่จะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมไม่แพ้เรื่องอื่น ๆ
เนื่องจากการดำเนินธุรกิจที่ดีมีคุณภาพนั้น
จะต้องควบคู่ไปการคำนึงถึงสังคมและสิ่งแวดล้อม
ซึ่งเป็นเหตุผลสำคัญที่จะเป็นมาตรวัดว่าธุรกิจมีคุณธรรมและคุณภาพมากน้อยเพียงใด
รูเบียอุตสาหกรรมมีความมุ่งมั่นอย่างยิ่งยวดที่จะปฏิบัติตามระบบมาตรฐานสากล
เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในทุกกลุ่ม อันประกอบด้วย ชุมชน
พนักงาน ผู้ถือหุ้น ผู้บริโภค คู่ค้าและภาครัฐ บริษัทฯ
มีการดูแลกระบวนการผลิตที่อาจจะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมทั้งมลพิษทางน้ำและทางอากาศ
มีการจัดจ้างหน่วยงานภายนอกที่ได้รับอนุญาตและขึ้นทะเบียนถูกต้องในการขนส่ง
การบำบัด และการกำจัดขยะและของเสียจากกระบวนการผลิต
เพื่อให้มั่นใจว่าขยะและของเสียดังกล่าวได้รับการกำจัดอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
ความพร้อมทั้งด้านความชำนาญ
ความเชี่ยวชาญ และได้มาตรฐานเหล่านี้ ทำให้ลูกค้าให้ความไว้วางใจ
มอบหน้าที่ผู้ผลิตให้กับรูเบียอุตสาหกรรมดำเนินการผลิตอย่างเต็มกำลังความสามารถ
สัญลักษณ์แห่งมาตรฐานส่งผ่านการรับรอง
รูเบียอุตสาหกรรมดำเนินธุรกิจมาอย่างยาวนาน
โดยยังคงยึดมั่นในวิสัยทัศน์
มาตรฐานการดำเนินงานเหมือนอย่างวันแรก
ทำให้ได้รับรองมาตรฐานระบบการจัดการสิ่งแวดล้อม (ISO14001:2015)
จาก BVC และการรับรองอุตสาหกรรมสีเขียว
(Green Industry) ระดับที่
4 (วัฒนธรรมสีเขียว-Green Culture) จากกระทรวงอุตสาหกรรม
ได้รับการรับรองทางด้านการดำเนินธุรกิจตามหลักจรรยาบรรณทางธุรกิจ (Code
of Conduct) ตามข้อกำหนดของ SMETA
(The Sedex Members Ethical Trade Audit ) และข้อกำหนดของ URSA
(Understanding Responsible Sourcing Audit) จาก
SGS
นอกจากนี้
รูเบียอุตสาหกรรมยังดำเนินกิจการตามมาตรฐานสากล มีความรับผิดชอบต่อสังคม ได้รับการรับรองมาตรฐานคุณภาพ
สิ่งแวดล้อม และหลักจรรยาบรรณทางธุรกิจ มาอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้ได้รับตราสัญลักษณ์
Thailand Trust Mark หรือ T Mark ตรารับรองคุณภาพสินค้าและบริการที่การันตีความเป็นเลิศของประเทศไทยด้วยการคัดสรรจากเกณฑ์การคัดเลือกที่เป็นมาตรฐาน
อันจะเป็นการเพิ่มคุณค่าของสินค้าไทยสู่สายตานานาประเทศ
โดยเป้าหมายต่อไปของรูเบียอุตสาหกรรมคือการสร้างเครือข่ายประสิทธิภาพของผลผลิตสินค้าอุปโภคบริโภค
เป็นคู่ค้าที่ดีและไว้วางใจได้ในภูมิภาค และมอบผลตอบแทนสูงสุดให้แก่ผู้มีส่วนร่วมในธุรกิจ
ซึ่งการได้รับตราสัญลักษณ์ T Mark ก็เป็นการเพิ่มโอกาสให้สินค้าของบริษัทฯ
ก้าวไปสู่ตลาดระดับภูมิภาคอย่างรวดเร็ว และสินค้าของผู้ประกอบการที่ให้รูเบียอุตสาหกรรมผลิตสินค้านั้นได้รับการยอมรับมากขึ้นทั้งในและต่างประเทศอีกด้วย
รูเบียอุตสาหกรรมยังคงมุ่งมั่นที่จะก้าวสู่การเป็นผู้นำแห่งการผลิตสินค้า
นำพาสินค้าและบริการที่มีคุณภาพมาสู่ชีวิตประจำวันของผู้บริโภค
เป็นรูเบียอุตสาหกรรมที่เคียงข้างสินค้าอุปโภคบริโภคไทยอย่างยาวนานต่อไป
สามารถติดตามข่าวสารและรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Thailand Trust Mark และสมัครเข้าร่วมโครงการได้ที่
www.thailandtrustmark.com