ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาพฤติกรรมการจับจ่ายใช้สอยของหลายคนเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก ผู้คนในสังคมได้รู้จักกับสิ่งที่เรียกว่า

อีคอมเมิร์ซ การซื้อขายบนแพลตฟอร์มออนไลน์ที่เข้ามามีบทบาทกับวิถีชีวติของคนในสังคม ตอบรับชีวิตในยุคดิจิทัลได้เป็นอย่างดี การซื้อขายในยุคนี้เกิดขึ้นได้เพียงปลายนิ้วสัมผัส ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อหลายคนได้รู้จักกับ E-Marketplace ทำให้การทำธุรกิจเป็นเรื่องที่ง่ายยิ่งขึ้น หลายคนเมื่อทำธุรกิจ ขายในประเทศอย่างชำนาญแล้ว เริ่มสนใจที่จะขยายธุรกิจให้เติบโตมากขึ้น ซึ่งถือเป็นจังหวะที่ดีที่ผู้ประกอบการจะหาช่องทางธุรกิจของตนเอง เพราะเทรนด์การขายแบบ Cross-Border E-Commerce เริ่มเป็นที่นิยม
เห็นได้จากแพลตฟอร์มยักษ์ใหญ่ของจีนอย่าง Aliexpress หรือเจ้าพ่ออีคอมเมิร์ซอย่าง Amazon เรียกได้ว่ามีหลากหลายช่องทางในการพาธุรกิจไปสู่ตลาดโลก แต่ Cross-Border E-Commerce เวิร์กจริงไหม สำหรับผู้ประกอบการไทยที่อยากก้าวไกลสู่ตลาดโลก และจะทำอย่างไรให้ประสบความสำเร็จบนแพลตฟอร์มต่างประเทศ วันนี้เราจะพาไปหาคำตอบกัน 

คุณภาพดีมีชัยไปกว่าครึ่ง

สิ่งสำคัญที่จะพาธุรกิจให้ประสบความสำเร็จไม่ว่าจะขายในหรือต่างประเทศ คือ ‘คุณภาพ’ เจ้าของธุรกิจต้องมั่นใจว่าสินค้าและบริการของเรามีคุณภาพที่ดี แต่คุณภาพที่ดีวัดจากอะไร ดังนั้น ตราสัญลักษณ์รับรองมาตรฐานจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ

Thailand Trust Mark (T Mark) เป็นตราสัญลักษณ์รับรองคุณภาพมาตรฐานสากลที่รับรองสินค้าและบริการของไทย ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือ ภายใต้แนวคิด “Trusted Quality” ที่การันตีคุณภาพสินค้าไทยที่ทั่วโลกไว้วางใจในทุกด้านประกอบด้วย คุณภาพสินค้าและบริการที่ได้รับมาตรฐานสากล ได้รับการรับรองมาตรฐานแรงงานไทย (Fair Labor) มาตรฐานอุตสาหกรรมสีเขียว (Green Industry) และเป็นบริษัทที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม (Social Responsibility) คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม (Environmental Concern) และที่ขาดไม่ได้คือ Heart Made Quality คือสิ่งรับรองว่าสินค้าและบริการเหล่านี้ต้องใส่ใจในการผลิตและเป็นสินค้าที่มีถิ่นกำเนิดในประเทศไทย ดังนั้น เมื่อผู้บริโภคเห็นตราสัญลักษณ์ T Mark จึงมั่นใจได้ว่าจะได้รับสินค้าและบริการที่คุณภาพดีที่สุด
จากประเทศไทย

อย่างไรก็ตามการทำ Cross-Border E-Commerce อาจไม่ง่ายอย่างที่คิดสำหรับผู้ประกอบการหน้าใหม่ที่ยังไม่มีประสบการณ์มากนัก ทั้งเรื่องการเสียภาษี การรับเงินจากต่างประเทศ รูปแบบการจัดการคลังสินค้าและระบบโลจิสติกส์ที่ซับซ้อนกว่าการขายในประเทศไทย แม้ว่าการทำ Cross-Border E-Commerce  จะไม่ใช่เรื่องยาก แต่การทำให้เกิดประสิทธิภาพอาจจะต้องมีตัวช่วยเข้ามาดูแล

T Mark มั่นใจมีส่วนช่วยขับเคลื่อนธุรกิจส่งออกและการทำ Cross-border e-Commerce  

โครงการ Thailand Trust Mark (T Mark) นอกจากเป็นการรับรองให้ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมต่าง ๆ แล้ว
T Mark ยังเป็นอีกหนึ่งโครงการที่พร้อมดูแล ให้คำปรึกษาผู้ประกอบการในทุกมิติของการทำธุรกิจ พร้อมผลักดันผู้ประกอบการไทยให้ผงาดในตลาดโลก เช่น ในตลาดจีน T Mark ภายใต้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศร่วมกับศูนย์สร้างโอกาสธุรกิจไทยสู่จีน (Thailand Smart Trade Center-TSTC) และ JD.com เว็บไซต์ E-Commerce ยักษ์ใหญ่อันดับ 2 ของจีน ชวนผู้ประกอบการร่วมกิจกรรม “ส่งเสริมสินค้าไทยเพื่อเข้าสู่ช่องทาง E-Commerce ร่วมกับ JD.com” เรียนรู้เคล็ดลับการทำการค้าออนไลน์ในประเทศจีน เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพ จากผู้เชี่ยวชาญด้านตลาดจีน ได้แก่ บริษัท Jingdong เจ้าของ JD.com เว็บไซต์ E-Commerce รายใหญ่ของจีน และศูนย์ TSTC ซึ่งเป็นศูนย์แสดงสินค้าไทยและสินค้าที่ได้รับตราสัญลักษณ์ Thailand Trust Mark (T Mark) ในเมืองโฝซาน มณฑลกวางตุ้ง พร้อมกันนี้จะมีการแนะนำ “Thailand Pavilion” หน้าร้านสินค้าไทยคุณภาพบนเว็บไซต์ JD.com ซึ่งเป็นแพลตฟอร์ม E-Commerce แบบ B2C ที่เป็นที่นิยมของจีน ซึ่งกรมฯ ได้จัดทำขึ้นอีกหนึ่งช่องทางในการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการที่มีสินค้าคุณภาพสามารถจำหน่ายสินค้าโดยตรงไปยังผู้บริโภคในตลาดจีน นอกจากผู้ร่วมกิจกรรมครั้งนี้จะได้รับความรู้แบบเจาะลึกเกี่ยวกับตลาดจีนแล้ว ยังมีโอกาสนำสินค้าเข้าร่วมจำหน่ายผ่าน Thailand Pavilion และสมัครสมาชิกศูนย์ TSTC พร้อมร่วมกิจกรรมจับคู่ธุรกิจกับคู่ค้าที่มีศักยภาพในงานครั้งนี้อีกด้วย และเนื่องจากตลาดออนไลน์จีนเป็นโอกาสธุรกิจที่ดีสำหรับผู้ประกอบการทั่วโลกรวมทั้งไทย แต่ก็มีความท้าทายสูงเช่นกัน เพราะเป็นตลาดขนาดใหญ่มาก ผู้บริโภคมีความต้องการที่หลากหลาย

ผู้ประกอบการไทยจำเป็นต้องปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตสินค้าให้แข่งขันได้ อย่าลืมว่าในยุค Cross-border e-Commerce เรามีลูกค้ารอซื้ออยู่เป็นพันล้านคน ผู้ประกอบการต้องสร้างหน้าร้านออนไลน์ให้ดึงดูดและสร้างแบรนด์ให้เป็นที่โดดเด่น มีเอกลักษณ์

แม้ว่าการทำ Cross-border e-Commerce จะเป็นเรื่องใหม่ แต่สำหรับผู้ประกอบการไทยที่วางแผนอย่างจริงจัง และให้ผู้เชี่ยวชาญอย่าง T Mark เป็นผู้ดูแลให้คำแนะนำ แน่นอนว่าเราจะสามารถลุยตลาดซื้อขายออนไลน์ข้ามพรมแดนกันได้อย่างแน่นอน

หากผู้ประกอบการท่านใดสนใจร่วมเป็นส่วนหนึ่งของตราสัญลักษณ์  T Mark สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://thailandtrustmark.com